Last updated: 7 พ.ค. 2568 | 67 จำนวนผู้เข้าชม |
แสงแดดมีประโยชน์มากมายต่อร่างกายมนุษย์ แต่หารู้ไม่ว่าแสงแดดนั้นเป็นศัตรูสำคัญต่อผิวพรรณของมนุษย์เช่นกัน เพราะประกอบไปด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่สามารถทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยก่อนวัย และเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง ดังนั้นการปกป้องผิวจากอันตรายที่แฝงมาในรูปแบบของแสงแดดจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยเหตุนี้เอง "ครีมกันแดด" จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน แต่การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องพิจารณาถึง 2 ปัจจัยสำคัญ นั่นก็คือ "ค่า SPF" และ "ค่า PA" ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UV นั่นเอง
1. ค่า SPF คืออะไร?
SPF (Sun Protection Factor) คือค่าที่บ่งบอกประสิทธิภาพของครีมกันแดดในการป้องกันรังสีอัตราไวโอเลตชนิด B (ultraviolet B-rays) หรือรังสี UVB ซึ่งเป็นรังสีที่ทำให้ผิวไหม้แดด และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง ค่า SPF สามารถบ่งบอกได้ว่าผิวของเราทนต่อแสงแดดได้นานแค่ไหนก่อนที่ผิวจะเริ่มไหม้ โดยแสดงเป็นตัวเลข เช่น SPF 15, SPF 30, SPF 50
- SPF 15 ปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ประมาณ 93%
- SPF 30 ปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ประมาณ 97%
- SPF 50 ปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ประมาณ 98%
ค่า SPF ที่สูงขึ้นไม่ได้หมายความว่าจะป้องกันแดดได้ 100% แต่มีส่วนช่วยให้ผิวของเราทนต่อรังสี UVB ได้นานขึ้น
2. ค่า PA คืออะไร?
PA (Protection Grade of UVA) เป็นค่าที่บ่งบอกถึงความสามารถในการป้องกันรังสีอัตราไวโอเลตชนิด A (ultraviolet A-rays) หรือรังสี UVA ซึ่งเป็นรังสีที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย เกิดฝ้ากระ รวมถึงจุดด่างดำ ระดับของ PA จะแสดงด้วยเครื่องหมาย "+" เพิ่มขึ้นตามระดับการป้องกันที่มากขึ้น เช่น PA+, PA++, PA+++ และ PA++++
- PA+ ป้องกัน UVA ได้ระดับเริ่มต้น ค่าการปกป้อง 2 เท่า
- PA++ ป้องกัน UVA ได้ระดับปานกลาง ค่าการปกป้อง 4 เท่า
- PA+++ ป้องกัน UVA ได้ระดับสูง ค่าการปกป้อง 8 เท่า
- PA++++ ป้องกัน UVA ได้สูงมาก ค่าการปกป้อง 16 เท่า
3. วิธีเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับกิจกรรม
- SPF 15-30, PA++ เหมาะสำหรับกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น ทำงานในออฟฟิศ เดินห้าง หรืออยู่ในที่ร่มเป็นส่วนใหญ่
- SPF 30-50, PA+++ เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ทำงานกลางแจ้ง วิ่งกลางแจ้ง หรือกิจกรรมที่ต้องออกแดดเป็นเวลานาน
- SPF 50+, PA++++ เหมาะสำหรับกิจกรรมทางน้ำ เช่น ว่ายน้ำ ดำน้ำ หรือเล่นกีฬาที่เหงื่อออกเยอะ นอกจากเลือก SPF 50+, PA++++ แล้ว ควรเลือกครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติกันน้ำ (Water Resistant)
การเลือกใช้ครีมกันแดดควรพิจารณาทั้งค่า SPF และ PA เพื่อป้องกันทั้งรังสี UVB และ UVA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ ค่า PA สูงสุดเสมอไป เราควรเลือกใช้ตามความเหมาะสมจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตและกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน ด้วยการเลือกครีมกันแดดที่สามารถปกป้องผิวได้ทั้งจาก UVA และ UVB โดยมีทั้งค่า SPF และ ค่า PA ที่เหมาะสมแสดงอยู่บนบรรจุภัณฑ์
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.loreal-paris.co.th/must-know-about-sunscreen?utm
https://www.welpano.com/blog/%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%94 -blog.aspx
https://mesoestetic-th.com/what-are-the-spf-and-pa-values
6 ม.ค. 2566
9 พ.ค. 2568