Last updated: 9 พ.ค. 2568 | 14 จำนวนผู้เข้าชม |
หลายคนอาจเข้าใจว่าปัญหาผิวขาดน้ำและผิวแห้งเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ในความเป็นจริง ทั้งสองปัญหาผิวมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากเราสามารถแยกแยะระหว่างผิวขาดน้ำและผิวแห้งได้ ก็จะช่วยให้สามารถดูแลผิวได้อย่างตรงจุด ผิวกลับมาสุขภาพดี เปล่งปลั่ง และมีความสมดุลมากขึ้น
ความแตกต่างระหว่างผิวขาดน้ำและผิวแห้ง
ผิวขาดน้ำ (Dehydrated Skin) เป็นภาวะที่ผิวขาดความชุ่มชื้นในชั้นผิว หรือมีน้ำในผิวน้อย เกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น อากาศแห้ง ดื่มน้ำน้อย มลภาวะภายนอก หรือแม้กระทั่งการนอนหลับพักผ่อนน้อย ผิวขาดน้ำสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวมันก็สามารถขาดน้ำได้
ผิวแห้ง (Dry Skin) เป็นลักษณะของผิวที่ขาดน้ำมันตามธรรมชาติ เกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวได้น้อยกว่าปกติ จึงทำให้ผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้นาน ส่งผลให้ผิวแห้งตึงและลอกเป็นขุย ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากพันธุกรรม
สัญญาณบ่งบอกว่าผิวของคุณกำลังขาดน้ำ
1. ผิวหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส
เมื่อผิวขาดน้ำ ความชุ่มชื้นในชั้นผิวลดลง ส่งผลให้ผิวดูโทรม ไม่เปล่งปลั่งเหมือนที่เคยเป็น ผิวไม่กระจ่างใส ต่อให้พักผ่อนเพียงพอก็ตาม
2. แต่งหน้าไม่ติด
สังเกตได้จากการลงรองพื้นแล้วเกลี่ยไม่เรียบ เป็นคราบ เป็นขุย โดยเฉพาะบริเวณจมูกหรือร่องแก้ม อาจไม่ใช่ปัญหาของเครื่องสำอางเสมอไป แต่อาจเป็นเพราะผิวขาดน้ำจนไม่สามารถดูดซึมผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. รู้สึกระคายเคืองง่าย
เกราะป้องกันผิวจะอ่อนแอลงเมื่อผิวขาดน้ำ ทำให้ไวต่อสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ เช่น อากาศแห้ง ฝุ่น หรือแม้แต่สกินแคร์บางตัวที่เคยใช้ได้ดี อาจกลายเป็นทำให้ผิวแสบ คัน หรือระคายเคืองมากขึ้น
วิธีเติมน้ำให้ผิว
1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
น้ำคือส่วนประกอบหลักของร่างกาย และมีบทบาทสำคัญต่อผิวพรรณ เพราะช่วยหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว จึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิวเช่นกัน
2. หลีกเลี่ยงการสครับหน้าที่รุนแรง
แม้ว่าการสครับผิวจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ แต่หากทำบ่อยเกินไป หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อหยาบ รุนแรง เช่น เม็ดสครับขนาดใหญ่ แผ่นลอกหน้า หรือแปรงขัดหน้าขนแข็ง อาจทำให้ผิวเสียสมดุล และสูญเสียความชุ่มชื้น
3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่รุนแรง เช่น มีแอลกอฮอล์ มีฟองเยอะ หรือมีน้ำหอมมาก อาจทำให้ผิวแห้งตึงและระคายเคือง ควรเลือกใช้สูตรที่อ่อนโยน มีส่วนผสมเติมความชุ่มชื้นอย่าง Hyaluronic Acid, Glycerin หรือ Ceramide เพื่อช่วยรักษาน้ำในผิวและเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงขั้นต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.eucerin.co.th/skin-concerns/sensitive-skin/dehydrated-skin?gad_source=1&gbraid=0AAAAADFZgH1T9HIt4j3Oi8zDRIhWqOWsc&gclid=Cj0KCQjww-HABhCGARIsALLO6Xw8464tfPF_ZhvfEBaSMIWwbaHnE5ZIb9ixSNYyxFtAU-WfzRCeW5waAiEQEALw_wcB
https://plumgoodness.com/blogs/skincare/dehydrated-skin
6 ม.ค. 2566
7 พ.ค. 2568